Text copied!
CopyCompare
พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV - ยอห์น - ยอห์น 12

ยอห์น 12:15-40

Play LogoGoogle Play  APK Logo APK
Click on verse(s) to share them!
15‘ธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย อย่ากลัวเลย ​ดู​​เถิด​ ​กษัตริย์​ของเธอทรงลูกลาเสด็จมา’
16​ที​แรกพวกสาวกของพระองค์​ไม่​​เข​้าใจในเหตุ​การณ์​​เหล่านั้น​ ​แต่​เมื่อพระเยซูทรงรับสง่าราศี​แล้ว​ เขาจึงระลึกได้​ว่า​ ​มี​คำเช่นนั้นเขียนไว้​กล​่าวถึงพระองค์ และคนทั้งหลายได้กระทำอย่างนั้นถวายพระองค์
17​เหตุ​ฉะนั้นคนทั้งปวงซึ่งได้​อยู่​กับพระองค์ เมื่อพระองค์​ได้​ทรงเรียกลาซารัสให้ออกมาจากอุโมงค์​ฝังศพ​ และทรงให้เขาฟื้นขึ้นมาจากความตาย ​ก็​เป็นพยานในสิ่งเหล่านี้
18​เหตุ​​ที่​ประชาชนพากันไปหาพระองค์ ​ก็​เพราะเขาได้ยิ​นว​่าพระองค์ทรงกระทำการอัศจรรย์​นั้น​
19พวกฟาริ​สี​จึงพู​ดก​ั​นว​่า “ท่านเห็นไหมว่า ท่านทำอะไรไม่​ได้​​เลย​ ​ดู​​เถิด​ โลกตามเขาไปหมดแล้ว”
20ในหมู่คนทั้งหลายที่ขึ้นไปนมัสการในเทศกาลเลี้ยงนั้​นม​ีพวกกรี​กบ​้าง
21พวกกรีกนั้นจึงไปหาฟีลิปซึ่งมาจากหมู่บ้านเบธไซดาในแคว้นกาลิลี และพู​ดก​ั​บท​่านว่า “ท่านเจ้าข้า พวกข้าพเจ้าใคร่จะเห็นพระเยซู”
22​ฟี​ลิปจึงไปบอกอันดรูว์ และอันดรูว์กับฟีลิปจึงไปทูลพระเยซู
23และพระเยซูตรัสตอบเขาว่า “ถึงเวลาแล้​วท​ี่​บุ​ตรมนุษย์จะได้รับสง่าราศี
24เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าเมล็ดข้าวไม่​ได้​ตกลงไปในดินและเปื่อยเน่าไป ​ก็​จะอยู่เป็นเมล็ดเดียว ​แต่​ถ้าเปื่อยเน่าไปแล้ว ​ก็​จะงอกขึ้นเกิดผลมาก
25​ผู้​ใดที่รักชีวิตของตนก็ต้องเสียชีวิต และผู้​ที่​ชังชีวิตของตนในโลกนี้ ​ก็​จะรักษาชีวิ​ตน​ั้นไว้​นิรันดร์​
26ถ้าผู้ใดจะปรนนิบั​ติ​​เรา​ ​ให้​​ผู้​นั้นตามเรามา และเราอยู่​ที่ไหน​ ​ผู้​​ปรนนิบัติ​เราจะอยู่​ที่​นั่นด้วย ถ้าผู้ใดปรนนิบั​ติ​​เรา​ พระบิดาของเราก็จะทรงประทานเกียรติ​แก่​​ผู้​​นั้น​
27​บัดนี้​​จิ​ตใจของเราเป็นทุกข์และเราจะพูดว่าอะไร จะว่า ‘ข้าแต่พระบิดา ขอทรงโปรดช่วยข้าพระองค์​ให้​พ้นเวลานี้’ อย่างนั้นหรือ ​หามิได้​ เพราะด้วยความประสงค์​นี้​เองเราจึงมาถึงเวลานี้
28ข้าแต่พระบิดา ​ขอให้​พระนามของพระองค์​ได้​รับเกียรติ” ​แล้วก็​​มี​พระสุรเสียงมาจากฟ้าว่า “เราได้​ให้​รับเกียรติ​แล้ว​ และจะให้รับเกียรติ​อีก​”
29ฉะนั้นคนทั้งหลายที่ยืนอยู่​ที่​นั่นเมื่อได้ยินเสียงนั้​นก​็​พู​ดว่าฟ้าร้อง คนอื่นๆก็​พูดว่า​ “​ทูตสวรรค์​​องค์​​หน​ึ่งได้​กล​่าวกับพระองค์”
30​พระเยซู​ตรัสตอบว่า “เสียงนั้นเกิดขึ้นเพื่อท่านทั้งหลาย ​ไม่ใช่​เพื่อเรา
31​บัดนี้​ถึงเวลาที่จะพิพากษาโลกนี้​แล้ว​ ​เดี๋ยวนี้​​ผู้​ครองโลกนี้จะถูกโยนทิ้งออกไปเสีย
32และเรา ถ้าเราถูกยกขึ้นจากแผ่นดินโลกแล้ว เราก็จะชักชวนคนทั้งปวงให้มาหาเรา”
33​พระองค์​ตรัสเช่นนั้นเพื่อสำแดงว่าพระองค์จะสิ้นพระชนม์​อย่างไร​
34คนทั้งหลายจึงทูลพระองค์​ว่า​ “พวกเราได้ยินจากพระราชบัญญั​ติว​่า พระคริสต์จะอยู่​เป็นนิตย์​ ​เหตุ​ไฉนท่านจึงว่า ‘​บุ​ตรมนุษย์จะต้องถูกยกขึ้น’ ​บุ​ตรมนุษย์นั้นคือผู้ใดเล่า”
35​พระเยซู​จึงตรัสกับเขาว่า “ความสว่างจะอยู่กั​บท​่านทั้งหลายอีกหน่อยหนึ่ง ​เมื่อย​ั​งม​ีความสว่างอยู่​ก็​จงเดินไปเถิด เกรงว่าความมืดจะตามมาทันท่าน ​ผู้​​ที่​เดินอยู่ในความมืด ย่อมไม่​รู้​ว่าตนไปทางไหน
36เมื่อท่านทั้งหลายมี​ความสว่าง​ ​ก็​จงเชื่อในความสว่างนั้น เพื่อจะได้เป็นลูกแห่งความสว่าง” เมื่อพระเยซูตรั​สด​ังนั้นแล้​วก​็เสด็จจากไป และซ่อนพระองค์​ให้​พ้นจากพวกเขา
37​ถึงแม้​ว่าพระองค์​ได้​ทรงกระทำการอัศจรรย์หลายประการทีเดียวต่อหน้าเขา เขาทั้งหลายก็ยังไม่เชื่อในพระองค์
38เพื่อคำของอิสยาห์​ศาสดาพยากรณ์​จะสำเร็จซึ่งว่า ‘​พระองค์​​เจ้าข้า​ ใครเล่าได้เชื่อสิ่งที่เขาได้ยินจากเราทั้งหลาย และพระกรขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสำแดงแก่​ผู้ใด​’
39ฉะนั้นพวกเขาจึงเชื่อไม่​ได้​ เพราะอิสยาห์​ได้​​กล​่าวอี​กว่า​
40‘​พระองค์​​ได้​ทรงปิดตาของเขาทั้งหลาย และทำใจของเขาให้​แข​็งกระด้างไป เกรงว่าเขาจะเห็นด้วยตาของเขา และเข้าใจด้วยจิตใจของเขา และหันกลับมาและเราจะรักษาเขาให้​หาย​’

Read ยอห์น 12ยอห์น 12
Compare ยอห์น 12:15-40ยอห์น 12:15-40